
ที่เที่ยว ในเมือง ประจวบ


เที่ยวประจวบฯ ต้องไปที่ไหนบ้าง ถึงจะเด็ด....เราคัดมาให้แล้ว
ปล. แอดมินไม่ได้เรียงลำดับความสำคัญนะครับ
ปล. แอดมินไม่ได้เรียงลำดับความสำคัญนะครับ
อ่าวมะนาว อยู่ห่างจากตัวเมืองประจวบคีรีขันธ์ไปทางทิศใต้ประมาณ 5 กม. เป็นที่ตั้งของกองบิน 53 และเคยเป็นยุทธภูมิในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ระหว่างกองทัพไทย และกองทัพญี่ปุ่น บริเวณอ่าวมะนาวมีทิวทัศน์สวยงาม ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าไปพักผ่อนหย่อนใจได้ มีร้านอาหาร และมีบริการบ้านพัก
เป็นชายหาดที่สะอาดและ สวยงามอยู่ในพื้นที่ของกองทัพอากาศ ชายหาดมีลักษณะโค้งเป็นวงกลมเหมือนลูกมะนาว จึงเป็นที่มาของคำว่า อ่าวม... read more
เป็นชายหาดที่สะอาดและ สวยงามอยู่ในพื้นที่ของกองทัพอากาศ ชายหาดมีลักษณะโค้งเป็นวงกลมเหมือนลูกมะนาว จึงเป็นที่มาของคำว่า อ่าวม... read more
เขาล้อมหมวก ที่ต้องเดินขึ้นเขาล้อมหมวก เพื่อชมทัศนียภาพ แต่ต้องออกกำลังกันมากเสียมากหน่อย เพราะเป็นเส้นทางขึ้นเขาและเป็นทางเดินหิน ไม่ค่อยมีต้นไม้ให้เกาะจึงต้องปีนป่ายห้อยโหนกันพอสมควร เมื่อขึ้นไปถึงแล้วก็คุ้มค่ากับความงามของวิวทะเล บริเวณนั้นยังเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าพ่อเขาล้อมหมวกให้ประชาชนได้ขึ้นได้ไปสักการะ...
read more
ด่านสิงขร อยู่จุดชายแดนพม่า เป็นตลาดชายแดนที่ขายสินค้าพื้นเมืองทั้งของคนไทยและพม่า ได้แก่ เฟอร์นิเจอร์และข้าวของเครื่องใช้ที่ทำจากไม้แกะสลักซึ่งเป็นงานฝีมือแฮนด์เมด (Hand Made) เหมาะสำหรับเป็นของใช้และตกแต่งบ้าน กล้วยไม้ป่า ต้นไม้ป่าหายากต่างๆ รวมถึงเครื่องประดับที่ทำจากหินสีและพลอยพม่าคุณภาพดีหลากชนิด
โดยด่านสิงขร เป็นจุดผ่อนปรนทางการค้าระหว่างชายแดนไทยและพม่าที่แคบที่สุด ส่วนจุดที่แคบที่สุดของจั... read more
โดยด่านสิงขร เป็นจุดผ่อนปรนทางการค้าระหว่างชายแดนไทยและพม่าที่แคบที่สุด ส่วนจุดที่แคบที่สุดของจั... read more
หาดคลองวาฬ อยู่ห่างจากตัวเมืองประจวบฯ ประมาณ 6 กม. หาดคลองวาฬมีความยาวประมาณ 4 กม. ใกล้ๆกันมีสะพานปลาและท่าเทียบเรือ เป็นจุดชมวิวที่ไม่ควรพลาดสามารถเล่นน้ำในหาดได้ ที่พักแถวนี้จะราคาไม่แพง สามารถซื้อของทะเลแห้งจากที่นี่ และสิ้นค้า OTOP ต่างๆ ที่ชาวบ้านได้นำมาให้เลือกจับจ่ายได้...
read more
เจ้าพ่อเขาล้อมหมวก ตามตำนานที่เล่าขานสืบมาแต่ครั้งบรรพกาล ท่านเป็นชาวจีนแผ่นดินใหญ่ เดินทางโดยเรือสำเภามาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร ตั้งเเต่สมัยกรุงศรีอยุธยา เมื่อมาถึง ณ แผ่นดินแห่งนี้ ท่านได้สร้างหลักปักฐาน และสร้างคุณความดีอย่างยิ่งยวด ให้กับแผ่นดินเเละประชาชน จนเป็นที่เคารพนับถือของคนทั่วไปตราบจนสิ้นอายุขัยได้ 97 ปี
ด้วยพลังบารีแห่งความดีที่ท่านได้สั่งสมไว้ครั้งยังมีชีวิตอยู่ ได้ส่งผลให้ดวงวิญญาณสิงส... read more
ด้วยพลังบารีแห่งความดีที่ท่านได้สั่งสมไว้ครั้งยังมีชีวิตอยู่ ได้ส่งผลให้ดวงวิญญาณสิงส... read more
ภาพแกะสลักเล่าเรื่องราวการสู้รบครั้งนั้น มีอนุสาวรีย์วีรชนทหาร ทำจากหินทรายเขียวน้ำหนัก 60 ตัน สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงวีรกรรมของวีชน 8 ธันวาคม 2484 ด้านหน้าเป็นภาพการต่อสู้เพื่อขัดขวางการยกพลขึ้นบก ด้านหลังเป็นภาพการเซ็นสัญญาสงบศึก
... read more
... read more
อนุสาวรีย์วีรชน 8 ธันวา 2484 จัดสร้างขึ้นเพื่อเชิดชูเกียรติประวัติการต่อสู้อันกล้าหาญ ของทหารอากาศไทยในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ณ ที่ตั้งกองบิน 5 แห่งนี้
การสู้รบที่กองบินน้อย เป็นเหตุการณ์สําคัญในประวัติศาสตร์ของการสู้รบที่แสดงให้เห็นถึงวีรกรรมความกล้าหาญของทหารอากาศแห่งกองบิน กำลังตำรวจ ยุวชนทหาร และชาวประจวบคีรีขันธ์ที่ยอมเสียสละชีวิตเพื่อรักษาผืนแผ่นดินไทย อนุสาวรีย์นี้จึงเป็นที่รว... read more
การสู้รบที่กองบินน้อย เป็นเหตุการณ์สําคัญในประวัติศาสตร์ของการสู้รบที่แสดงให้เห็นถึงวีรกรรมความกล้าหาญของทหารอากาศแห่งกองบิน กำลังตำรวจ ยุวชนทหาร และชาวประจวบคีรีขันธ์ที่ยอมเสียสละชีวิตเพื่อรักษาผืนแผ่นดินไทย อนุสาวรีย์นี้จึงเป็นที่รว... read more
อาคารพิพิธภัณฑ์อุทยานประวัติศาสตร์ กองบิน 5 และ อาคารประวัติสงคราม ได้แสดงนิทรรศการ เกี่ยวกับวีรกรรม วันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ.2484 ไม่ว่าจะเป็น การเจรจาขอผ่านแดน สงครามโลกครั้งที่ 2 สงครามมหาเอเชียบูรพา รวมไปถึงแสดงเครื่องบินส่วนตัว เครื่องบินฝึกหลายแบบ
... read more
... read more
เขาตาม่องล่าย เป็นพื้นที่ธรรมชาติอันเปราะบาง เป็นป่าสงวนฯ มีกฎและข้อพึงปฏิบัติร่วมกัน เทือกเขาติดกับอ่าวประจวบฯ ทอดตัวเป็นแนวยาว มีโขดหินกระจัดกระจายสลับซับซ้อน บริเวณชายฝั่งมีทัศนียภาพที่สวยงาม มีพื้นที่ราบเชิงเขา สภาพเป็นป่าเบญจพรรณ ป่าชายหาด และป่าชายเลนตามแนวคลองตาม่องล่าย
จุดชมวิวบนเทือกเขาตาม่องล่ายมีทิวทัศน์สวยงาม สามารถมองเห็นอ่าวประจวบคีรีขันธ์ และตัวเมืองประจวบคีรีขันธ์ได้ มีห... read more
จุดชมวิวบนเทือกเขาตาม่องล่ายมีทิวทัศน์สวยงาม สามารถมองเห็นอ่าวประจวบคีรีขันธ์ และตัวเมืองประจวบคีรีขันธ์ได้ มีห... read more
อุทยานวิทยาศาสตร์พระจอมเกล้า ณ หว้ากอ เป็นดินแดนที่มีความสำคัญทางด้านประวัติศาสตร์ของวงการวิทยาศาสตร์ของไทย เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงคำนวณไว้ล่วงหน้าว่าจะมองเห็นสุริยุปราคาเต็มดวงที่หว้ากอแห่งนี้ และได้เสด็จมาทอดพระเนตรพร้อมด้วยนักวิทยาศาสตร์ และทูตานุฑูตชาวต่างประเทศ เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2411 จากตัวเมืองเดินทางมาทางทิศใต้ 12 กม. ตามถนนเพชรเกษมถึงกม.ที่ 335-336 จะมี...
read more