“สังขละบุรี อำเภอที่ยังคงอุดมสมบูรณ์ด้วยธรรมชาติ โอบล้อมด้วยภูเขา มีสายน้ำ ซองกาเลีย รันตีและบีคลี่ ที่คอยหล่อเลี้ยงอำเภอแห่งนี้ เสน่ห์ของเมืองนี้ยังอยู่ที่วิถีชีวิตไทย กะเหรี่ยง มอญ พม่า ที่เกื้อการุณ อยู่ร่วมกันมาหลายชั่วอายุคน และมีสะพานไม้ที่เชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างหมู่บ้านไทย มอญ เป็นสัญลักษณ์แห่งมิตรภาพ”
สถานที่เที่ยวที่น่าสนใจของอำเภอสังขละบุรี ได้แก่
- วัดวังวิเวการาม ตั้งอยู่ห่างจากตัวอำเภอสังขละบุรีประมาณ 3 กม. มีวิหารริมแม่น้ำประดิษฐานพระพุทธรูปหินอ่อนอ้นงดงามและเป็นที่จำพรรษาของ "หลวงพ่ออุตตมะ" พระเกจิอาจารย์ชื่อดังซึ่งประชาชนชาวไทย ชาวมอญ รวมทั้งกระเหรี่ยงและพม่าที่อาศัยอยู่บริเวณนั้นเคารพนับถือจากบริเวณวัด วังก์วิเวการามไปอีก 1 กม.จะเป็นที่ตั้งของเจดีย์แบบพุทธคยาบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
- สะพานไม้มอญ อยู่ไม่ไกลจากวัดวังก์วิเวการามนัก จะมีแยกทางเข้าเล็กๆ (สังเกตดีๆ นะครับ ผมยังหาไม่ค่อยเจอเลย) เมื่อเราเดินทางไปวัดฯ เราสามารถสังเกตเห็นสะพานไม้มอญได้แต่ไกล ลำพังสะพานนี้ก็ไม่ค่อยมีอะไรเด่นนัก แต่สิ่งที่ดึงดูดใจผม มากที่สุดก็จะเห็นได้แก่ บรรยากาศรอบๆ ซึ่งจริงๆ แล้วอำเภอสังขละนี้อยู่บริเวณที่สูง สภาพอากาศที่นี่จะร่มเย็น และบางทีคลึ้มฟ้าคลึ้มฝนตลอดทั้งวัน ทิวทัศน์โดยรอบเมื่อมองไปก็จะเห็นสีเขียวของทุ่งหญ้าตัดกับพื้นน้ำ และขอบฟ้า สวยงามมากครับ
- ด่านเจดีย์สามองค์ ตั้งอยู่ที่ตำบลหนองลูก่อน ถึงตัวอำเภอสังขละบุรี 4 กม. มีทางแยกขวาไปด่านเจดีย์สามองค์อีก 18 กม. ทางราดยางตลอดสาย พระเจดีย์สามองค์นี้เดิมเรียกว่า หินสามกอง เป็นที่สักการะของคนไทยในสมัยโบราณก่อนที่จะเดินทางเข้าสู่เขตพม่า ต่อมาในปี 2472 พระศรีสุวรรณคีรี เจ้าเมืองสังขละบุรีของไทย ได้เป็นผู้น้ำชาวบ้านสร้างเป็นเจดีย์ขนาดเล็กสามองค์ดังที่เห็นในปัจจุบัน นี้ นอกจากนี้บริเวณด่านเจดีย์สามองค์ยังเป็นช่างทางเดินทัพที่สำคัญของไทยและ พม่าในอดีต ปัจจุบันนักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปชมตลาดชายแดนในเขตพม่าได้ โดยเสียค่าผ่านด่านชาวไทย 25 บาท ชาวต่างประเทศ 130 บาท ถ้าเราได้ข้ามไปฝั่งพม่า เลยไปตามทางลูกรัง ประมาณ 10 กม. เราจะพบ วัดเสาร้อยต้น
- น้ำตกตะเคียนทอง เป็นน้ำตกที่ถูกปกคลุมด้วยป่าไผ่ ดงหวาย ดงเฟิร์นและไม้ใหญ่ยืนต้นนานาพันธุ์บริเวณเทือกเขาตะนาวศรี แนวเขตชายแดนไทย พม่าในเขตสังขละบุรีตัวน้ำตกมีต้นน้ำอยู่ในเขตประเทศพม่า ไหลเลาะเลื้อยมาตามแนวเขาที่กั้นเขตแดน สู่ประเทศไทยที่ห้วยซองกาเลียซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของต้นแม่น้ำแควน้อย จากความอุดมสมบูรณ์ของป่า ทำให้เป็นน้ำตกที่มีน้ำไหลตลอดทั้งปี แต่ละชั้นมีความงดงามแปลกตา ส่วนใหญ่มีลักษณะเป็นลานกว้าง มีน้ำตกไหลผ่านกระจายกันออกไปนักท่องเที่ยวสามารถเดินลุยน้ำไปตามน้ำตกเพื่อ ขึ้นไปชมชั้นสูงๆ ได้
การเดินทาง
- ทางรถยนต์เส้นทางที่ 1 ไปตามถนนเพชรเกษมหรือไปตามถนนบรมราชชนนี ผ่านนครชัยศรี นครปฐม บ้านโป่ง ท่ามะกา ท่าม่วง ถึงจังหวัดกาญจนบุรี ระยะทาง 129 กม. ใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่ง
- ทางรถโดยสารประจำทาง
- รถโดยสารปรับอากาศ ออกจากสถานีขนส่งสายใต้ รถปรับอากาศชั้นหนึ่ง ออกทุก 15 นาที ตั้งแต่เวลา 05.00-22.30 น.
- รถปรับอากาศชั้นสองออกทุก 20 นาที ตั้งแต่เวลา 05.10-20.30 น. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-4351200, 02-4347192
- รถโดยสารธรรมดา ออกจากสถานีขนส่งสายใต้ทุก 15 นาที ตั้งแต่เวลา 04.00-20.00 น. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง
สอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร. 02-4345557-8 - ทางรถไฟ ออกจากสถานีรถไฟบางกอกน้อย วันละ 2 เที่ยว เวลา 07.50 น. และ 13.45 น. แวะจอดที่สถานีกาญจนบุรี สะพานข้ามแม่น้ำแคว ท่ากิเลน สถานีน้ำตก
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-4113102
วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดราชการ มีรถไฟเที่ยวพิเศษ นำเที่ยวไปกลับภายในวันเดียว รายละเอียดสอบถาม โทร. 02-2237010, 02-2237020, 02-2256964
เมื่อถึงตัวเมืองกาญจนบุรีแล้วมีพาหนะในตัวเมืองหลายอย่าง เช่นรถสองแถว รถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง รถสามล้อเครือง รถสามล้อถีบ
- รถสองแถววิ่งในเมือง มีรถสองแถววิ่งบริการทุกวันตั้งแต่เวลา 05.30-18.00น. ท่ารถอยู่ริม ถ. แสงชูโต ใกล้สี่แยกไฟแดง ตรงข้าม รร. กาญจนานุเคราะห์ ค่ารถ 6 บาท ตลอดสาย
- สาย 1 ตลาด สถ. อ. เมื่องกาญจน์ ตลาดชุกโดน รพ. พหลพลพยุหเสนา รร. วิสุทธรังษี วัดท่าล้อ
- สาย 2 ตลาด สุสานทหารสัมพันธมิตร (ดอนรัก) ทางแยกเข้าสถานีรถไฟกาญจนบุรี ทางแยกเข้าสพานข้ามแม่น้ำแควคาซเซิลมอลล์ ขนส่งจังหวัดกาญจนบุรี (แยกแก่งเสี้ยน)
- รถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง มีคิวรถเป็นประจำนวนมากบริเวณสถานีขนส่ง จ. กาญจนบุรี และตามสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ เช่น เชิงสะพานข้ามแม่น้ำแคว นอกจากนักท่องเที่ยวไกล ๆ ได้ ค่าบริจากสถานีขนส่งมีดังนี้ ในตลาด 10-20 บาท สุสานทหารสัมพันธมิตร 10 บาท สะพานข้ามแม่น้ำแคว 20 บาท วัดถ้ำมังกรทอง 40 บาท ลาดหญ้า 50 บาท สุสานช่องไก่ 100 บาท ถ้ำเขาปูน 100 บาท ปราสาทเมืองสิงห์ 130 บาท เอราวัณ 200 บาท
- รถสามล้อเครือง (ตุ๊กตุ๊ก) มีวิ่งบริเวณตลาด ตั้งแต่เวลา 06.00-24.00 น. ค่าบริการจะแพงกว่ามอเตอร์ไซค์รับจ้างประมาณ 10-20 บาท
- รถสามล้อถีบ มีวิ่งบริการทั่วไปในตลาด ตั้งแต่เวลา 08.00-20.00 น. นั่งได้ไม่เกินสองคน ตัวอย่างราคาเหมาไปสถานที่ท่องเที่ยวมีดังนี้ สุสานทหารสัมพันธมิตร (ดอนรัก) 50 60 บาท สะพานข้ามแม่น้ำแคว 80-100 บาท
- เหมารถ มีรถสองแถวและรถกระบะให้เช่าเหมาพร้อมคนขับและน้ำมันรถ บริเวณสถานนีขนส่ง จ. กาญจนบุรี (นั่งได้ 8 10 คน) ค่าบริการมัดังนี้ สุสานทหารสัมพันธ์มิตร (ดอนรัก) 30 บาท สพานข้ามแม่น้ำแคว 50 บาท ลาดหญ้า 100 บาท เที่ยวแหล่งท่องเที่ยวในตัวประมาณ 5-8 แห่ง ราคา 500-700 บาท หรือวันละ 1000 บาท
นอกจากนี้ยังสามารถเหมาไปเที่ยวต่างอำเภอ ค่าบริการดังนี้
- ปราสาทเมืองสิงห์ 180 บาท
- บ้านเก่า 200 บาท
- อ. ท่าม่วง 100 บาท
- อ. พนมทวน 150 บาท
- น้ำตกไทรโยคน้อย 400 บาท
- น้ำตกไทรโยคใหญ่ 600 บาท
- น้ำตกเอราวัณ 400 บาท
- อ. ทองผาภูมิ 800 บาท (เหมาเที่ยว วันละ 1.500 บาท)
- อ. สังขละบุรี 1,500 บาท (เหมาเที่ยววันละ 2,000 บาท) เที่ยวในเขต
- อ. ศรีสวัสดิ์ น้ำตกเอราวัณ เขื่อนศรีนครินทร์ ราคา 1000 บาท
- เที่ยวน้ำตกไทรโยคใหญ่ ไทรโยคน้อย บ้านเก่า ปราสาทเมืองสิงห์ 1,500 บาท
นอกจากนี้ในเมืองยังมีเรือและแพทั้งหมดให้บริการนำเที่ยวไปตามลำน้ำแควใหญ่และแควน้อย ราคาไม่แพง มีสองแห่งคือ หน้าหัวเมือง เรือและแพทั้งหมดจากบริเวณนี้ล่องไปตามลำน้ำแควน้อย สพานแมน้ำแคว จากจุดนี้นักท่องเที่ยวจะได้ล่องแม่น้ำแควและแวะตามสถานที่ท่องเที่ยวริมน้ำซึ้งอยู่ไม่ห่างจากสพานข้ามแม่น้ำแควมากนัก