“วัดภูมินทร์ ชมวิหารแปลกตา และจิตรกรรมฝาผนังชิ้นเอก”

วัดภูมินทร์ ตามคัมภีร์เมืองเหนือ ชื่อแรกเริ่มคือ "วัดพรหมมินทร์" แต่ตอนหลังชื่อวัดได้เพี้ยนจนกลายเป็น"วัดภูมินทร์" สร้างโดยพระเจ้าเจตบุตรพรหมมินทร์ เป็นวัดที่สร้างพระอุโบสถเป็นทรงจตุรมุขหนึ่งเดียวในประเทศไทยที่ดูคล้ายตั้งอยู่บนหลังพญานาค 2 ตัว อาคารนี้นอกจากจะเป็นพระอุโบสถ ยังเป็นพระวิหารและพระเจดีย์ประธานอีกด้วย

อาคารในแนวตะวันออก-ตกเป็นพระวิหาร และอาคารแนวเหนือ-ใต้ เป็นพระอุโบสถ รัฐบาลไทยเคยพิมพ์รูปวัดภูมินทร์ในธนบัตรใบละ 1 บาท ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 รับการบูรณะครั้งใหญ่สมัยเจ้าอนันตวรฤทธิเดช เมื่อ พ.ศ.2410 (ปลายสมัยรัชกาลที่ 4) ใช้เวลาซ่อมนานถึง 7 ปี จิตรกรรมฝาผนังในวิหารหลวงก็เขียนขึ้นในช่วงนี้ ภาพจิตรกรรมหรือ “ฮูบแต้ม

ภาพจิตกรรม(ฮูบแต้ม)จะวาดเป็นแบบชาดกในพุทธศาสนาแต่ถ้าพิจารณารายละเอียดของวิถีชีวิตของคนเมืองในสมัยนั้น มีภาพที่น่าสนใจอยู่หลายภาพเช่น ภาพธรรมเนียมการอยู่ข่วง ของชาวไทลื้อ พ่อแม่ จะอนุญาตให้หนุ่มสาวพบปะกันที่ชานบ้านในเวลาค่ำ ขณะหญิงสาวกำลังปั่นฝ้าย หรือ “อยู่ข่วง” หากสาวเจ้าตกลงปลงใจด้วยก็จะจัดพิธีแต่งงาน หรือที่เรียกว่า “เอาคำ ไปป่องกั๋น” หรือเป็นทองแผ่นเดียวกัน การค้าขายแลกเปลี่ยนในชุมชน ภาพชาวพื้นเมือง ซึ่งอาจเป็นชาวเขา “เป๊อะ” ของป่าบนศรีษะ เพื่อนำมาแลกเปลี่ยนกับคนเมือง

ภาพปู่ม่าน ย่าม่าน/หนุ่มกระซิบ/เสียงกระซิบบรรลือโลกได้รับการยกย่องว่าเป็นภาพที่งามเป็นเยี่ยมของวัดภูมินทร์ มีการใช้สีแดง ฟ้าดำ น้ำตาลเข้มเป็นปื้นใหญ่ๆคล้ายภาพสมัยใหม่ ชีวิตความเป็นอยู่ของคนเมืองน่าน หญิงสาวกำลังทอผ้าด้วยกี่พื้นเมือง นอกชานมีเรือนเล็กๆตั้งหม้อน้ำดินเผาที่เรียกว่า “ร้านน้ำ” ส่วนชายหนุ่มไว้ผมทรงหลักแจวหรือทรงมหาดไทย แสดงให้เห็นอิทธิพลตะวันตกที่เข้ามาผสมผสานในวิถีพื้นเมืองน่าน ภาพชาวต่างประเทศ ที่เข้ามาเมืองน่านช่วงรัชกาลที่ 5 ทรงผม และเครื่องแต่งกายของผู้หญิงเป็นรูปแบบเดียวกับที่กำลังเป็นที่นิยมในยุโรปขณะนั้น


เที่ยวได้ตลอดทั้งปี

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :

ททท.สำนักงานแพร่(รับผิดชอบแพร่ น่าน อุตรดิตถ์)   054-521127, 054-521118-9

ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวน่าน  054-751169, 054-750247

All reviews

(List 0 review)